พบกับบทสัมภาษณ์สุดพิเศษของ THE RAMPAGE frome EXILE TRIBE ได้ที่นี่ที่เดียว
![](https://static.wixstatic.com/media/286230_ee058eb604fc4f5bbe3c684bde4dad58~mv2.jpg/v1/fill/w_500,h_333,al_c,q_80,enc_auto/286230_ee058eb604fc4f5bbe3c684bde4dad58~mv2.jpg)
CanCam12 ฉบับเดือนธันวาคม กับหนุ่มๆ THE RAMPAGE from EXILE TRIBE
เราจะมาพูดคุยกับพวกเขาถึงการจัด Arena Tour และเส้นทางการเดินทางของพวกเขาตั้งแต่อัลบั้มแรก
2nd Album THE RIOT ที่กำลังจะวางแผงวันที่ 30 ตุลาคม ในโอกาสนี้เลยได้ขอตัว 5 หนุ่มมาร่วมพูดคุยกันในครั้งนี้
มาเริ่มกันที่หัวข้อที่ไม่ได้มีการตีพิมพ์ลงนิตยสารกันก่อนดีกว่า
Q. 1st Album และ 2nd Album ทีม Vocal มีพัฒนาการ หรือการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างไหม
RIKU : ทีม Vocal ก็ได้ท้าทายกับบทบาทงานแสดงด้วยครับ เลยทำให้การสื่อสารออกไปมันชัดขึ้น แล้วในอัลบั้มนี้ ก็มีการทำเพลงที่มีแนวดนตรีที่หลากหลาย ทำให้มองเห็น RAMPAGE ได้ในหลายๆ ด้านเลยครับ ในแต่ละเพลงเนี่ยพวกเราก็ใส่ความมั่นใจลงไป แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของพวกเรา อย่าง Performer เองก็จะแสดงออกมาในรูปแบบการเต้น ส่วนพวกผมก็เป็นในเรื่องของการร้องเพลงครับ เพราะแบบนั้นแหละครับ มันถึงทำให้รู้สึกว่าในอัมบั้มต่อๆ ไป ต้องทำยังไงก็ได้ให้ทุกคนเห็นพัฒนาการของพวกเราครับ มันเป็นอัลบั้มที่จะทำให้ทุกคนรับรู้ได้ถึงการเจริญเติบโตของพวกเราในก้าวนึง และมันยังเป็นเหมือนสิ่งที่ส่งผ่านความรู้สึกไปให้กับแฟนๆ ที่คอยสนับสนุนพวกเราตลอดมา หรือแม้แต่กับคนที่เพิ่งได้รู้จักกับพวกเราด้วยครับ ไม่ได้มีแค่เพลงที่ดูเทห์ๆ อย่างเดียวนะครับ แต่ก็ยังมีเพลงที่เป็นเนื้อหาแบบบอกให้รู้ว่าเราอยู่เคียงข้างกันด้วยแบบนั้นครับ ผมเลยคิดว่าแม้แต่คนที่เพิ่งจะเคยได้ดู หรือได้ฟังเนี่ยก็น่าจะสนุกไปกับผลงานชิ้นนี้ได้ดีเลยครับ
Q. การเตรียมตัวสำหรับอัลบั้มใหม่เป็นอย่างไรบ้าง?
Zin : ผมว่ามันก็ไม่ได้มีการเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ แต่มันเป็นอัลบั้มที่เป็นผลมาจากการทำงานของพวกเราอีก 1 ชิ้นมากกว่า บวกกับการที่ผมมักจะจัดการตัวเองเพื่อให้ทำผลงานที่ดีๆ ออกมาได้อย่างนี้เรื่อยๆ ครับ การที่อัลบั้มออกมาในรูปแบบนี้ มันก็คงมาจากสิ่งที่เราทำกันมาตลอดนั่นแหละครับ ผมเลยต้องจัดระเบียบให้ตัวเองอยู่เสมอ (Zin น่าจะหมายถึงว่า เราทำอะไร เท่าไหร่ ผลที่ได้ก็เป็นไปตามการกระทำของเราประมาณนั้นค่ะ) แล้วผมว่าแบบนั้นมันทำให้ RAMPAGE สื่อถึงทุกคนได้ง่ายขึ้นด้วยครับ
Q. นอกจากเพลงหลัก Move the World และ เพลงประกอบภาพยนต์เรื่อง HiGH&LOW SWAG & PRIDE แล้ว มีเพลงไหนที่อยากแนะนำให้ผู้อ่าน CanCam ลองฟังดูบ้าง?
Zin : สำหรับ CanCam ผมว่าต้องเป็นเพลงที่ดูน่ารัก สดใสหน่อย!?
Kawamura : สำหรับผม แน่นอนเลยต้องเป็นเพลง All day ครับ ก็มีทั้งความรู้สึกส่วนตัวด้วย แต่มันก็เป็นเพลงที่อยากทำร่วมกับทุกคนมากที่สุดด้วยครับ ถ้าถามถึงเพลงที่เป็นที่สุด ก็เพลงนี้แหละครับ แล้วเพลงนี้ก็ยังเป็นดนตรีในแบบที่พวกเราชอบกันด้วยครับ
Zin : แต่ผมเปลี่ยนความคิดแล้วครับ เป็น One More Kiss
RIKU : เปลี่ยนแล้วคืออะไร!? (หัวเราะ)
Zin : ทำไมน่ะหรอ ถ้าให้แปลแบบตรงตัวเลย มันหมายความว่า จูบเธออีกครั้ง แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วคนที่เห็น RAMPAGE หรือทีมงงานของเราเป็นครั้งแรกเนี่ย มักจะรู้สึกว่าน่ากลัว หรือไม่ก็ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งใช่ไหมล่ะครับ และเพื่อเป็นการทำลายภาพลักษณ์แบบนั้น มันก็ต้องเป็นเพลงที่ให้อารมณ์แบบเขิน เสร็จแล้วก็ต่อด้วย THROW YA FIST ที่ให้อารมณ์แบบหนักแน่น โดยปกติแล้วผู้หญิงก็จะชอบฟังแพลงเบาๆ เลยแนะนำเพลงนี้เป็นเพลงแรก ถ้าเกิดว่าฟังแล้วชอบ แล้วอาจจะรู้สึกว่าอยากลองฟังเพลงอื่นๆ ดูด้วยอะไรแบบนั้นก็ได้จริงไหมครับ
Yoshino : ผมชอบ Starlight ที่สุดครับ ถึงมันจะไม่ใช่เพลงหลักแต่ถ้าได้รู้จักแล้วก็อยากรู้จัก ถ้าได้ฟังแล้วก็อยากฟังอีก เนื้อหามันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ฟังแล้วก็นึกถึงภาพท้องฟ้ายามค่ำคืน ให้บรรยากาศแบบหน้าหนาวด้วย พอตอนนี้ได้มาฟังแล้วทำให้นึกถึงความรู้สึกอะไรหลายๆ อย่างเลยล่ะครับ
Zin : เดี๋ยวๆ อันนั้นมันเรื่องส่วนตัวหรือเปล่า (หัวเราะ)
Kawamura : มีอะไรกันหรอ (หัวเราะ)
Yoshino : ไม่ใช่ละๆ (หัวเราะ) ผมว่ามันเป็นเพลงที่ดีจริงๆ นะ ทั้งเนื้อร้อง ทั้งทำนอง ก็ดีมากๆ เลย ผมเลยอยากให้หลายๆ คนได้รู้จักเพลงนี้ มากขึ้น ก่อนหน้านี้เพลงนี้ได้เป็นเพลงประกอบละคร Yube wa Otanoshimideshitane และครั้งนี้ก็ได้ถูกบรรจุในอัลบั้มนี้ด้วย ก็อยากให้ทุกคนได้ลองฟัง Starlight กันดูครับ
RIKU : สำหรับผม เปลี่ยนความคืดอีกแล้วครับ (หัวเราะ) ถ้าให้แตกต่างผมอยากแนะนำเพลง DOWN BY LAW ครับ เพลงนี้เป็นเพลง Title ของอนิเมชั่นเรื่อง FAIRY TAIL ครับ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมชอบ แล้วกิดตามดูเรื่องนี้มาตลอด พอได้มีเพลงของเราเป็นเพลง Title ของเรื่องก็ดีใจมากๆ เลยครับ ทำนอง เนื้อร้อง ผมว่ามันเป็นเพลงที่ฟังง่าย น่าจะเหมาะกับคนทุกวัยครับ RAMPAGE จะมีภาพลักษณ์ที่ดุดันก็จริง แต่ผมว่าเพลงนี้มันให้อารมณ์แบบกอดคอ จับมือสนุกไปด้วยกันได้แบบนั้นเลยครับ ถ้าทุกคนได้ฟังเพลงนี้แล้วก็อยากจะให้รู้จักกับพวกเรามากขึ้น แต่มันก็คงจะยากใช่ไหมล่ะครับ เพราะงั้นจริงๆ แล้วที่เลือกเพลงนี้ ก็แค่อยากให้มันแตกต่างจากคนอื่นๆ ก็แค่นั้นเองครับ
LIKIYA : สำหรับผม เลือก Nobody ครับ
RIKU : ว่าแล้วเพลงนี้ต้องมา ผมเลยเลือกที่จะไม่พูดถึงเพลงนี้ไงครับ (หัวเราะ)
LIKIYA : เพลงนี้เป็นภาษาอังกฤษทั้งเพลงเลย แล้วก็เซ็กซี่มากๆ ด้วย ผมว่าสาวๆ เองก็น่าจะชอบผู้ชายเซ็กซี่นะครับ แต่มันก็ไม่ได้มีแค่ความเซ็กซี่นะ มันยังให้ความรู้สึกถึงผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษด้วยครับ ซึ่งเพลงที่ให้ความรู้สึกแบบนี้แล้วเราไม่ค่อยได้ทำกันครับ เพลงนี้เลยเหมือนเป็นเพลงที่ทำให้เห็นอีกด้านนึงของพวกเรา ถึงจะให้อารมณ์แบบยั่วยวนหน่อยๆ แต่เป็นเพลงที่ดีเพลงนึงที่อยากให้ลองฟังกันครับ
Part ต่อไป เราจะพูดคุยกันถึงเรื่องส่วนตัวของหนุ่มๆ ให้ได้ยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้น รอติดตามกันด้วยนะ
ทางไปต่อ จิ้มเลยค่า >>>> Part 2
Credits : CanCam
Comments